สิ่งที่คุณต้องมีเพื่อใช้ในการซื้อขายสกุลเงิน คือสัญญาณอินเทอร์เน็ตและซอฟต์แวร์สำหรับการซื้อขาย ซึ่งมันมีตัวเลือกอยู่เยอะแยะมากมาย โดยคุณสามารถใช้ซอฟต์แวร์ที่สร้างโดยโบรกเกอร์ที่คุณต้องการที่จะเทรดด้วย หรือจะเทรดบนแพลตฟอร์มการซื้อขายที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง MetaTrader ก็ได้เช่นกัน

แพลตฟอร์มการซื้อขายสำหรับ Forex นั้นเรียกว่า MetaTrader 4 และ 5 (เรียกอีกอย่างว่า MT4 และ MT5) คุณสามารถดาวน์โหลดแพลตฟอร์มจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการได้อย่างง่ายดาย หรือไปที่ เพจของเรา เพื่ออ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลือกแพลตฟอร์มการซื้อขายที่หลากหลาย นอกจากนี้คุณยังสามารถดู วิดีโอแนะนำ เกี่ยวกับวิธีการดาวน์โหลด ติดตั้ง และลงชื่อเข้าใช้ MetaTrader เพื่อใช้งานกับโบรกเกอร์ที่คุณชื่นชอบ

ในฐานะโบรกเกอร์แล้ว FBS ได้เสนอเครื่องมือ Forex สำหรับการซื้อขายให้มากมาย รวมไปถึงแพลตฟอร์มการซื้อขายบนมือถือของเราเองอย่าง FBS Trader แอปฯ บนมือถือสำหรับ iOS และ Android นี้ เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ใช้งานได้ง่ายแถมยังทรงพลังอีกด้วย ซึ่งให้คุณสามารถเข้าถึงตราสารฯ การซื้อขายที่เป็นที่นิยมมากที่สุดได้จากกระเป๋าของคุณ

แพลตฟอร์มการซื้อขายเป็นสถานที่ที่เทรดเดอร์สามารถสร้างรายได้ทางออนไลน์ได้ คุณจะใช้มันเพื่อดูและวิเคราะห์แผนภูมิของของตราสารฯ ทางการเงิน และทำการซื้อขายของคุณ คุณสามารถดูตัวอย่างของหน้าต่างเทอร์มินัลได้จากด้านล่างนี้

MT4 กับ MT5

หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยในเหล่าเทรดเดอร์มือใหม่ก็คือ จะเลือกใช้ MetaTrader เวอร์ชันที่ 4 หรือ 5 ดี?

หลายๆ คนมักจะคิดว่า MT5 เป็นเพียงเวอร์ชันที่อัปเกรดขึ้นมาของ MT4 ซึ่งมันไม่เป็นความจริงเลย MT4 เหมาะสำหรับการซื้อขาย Forex และ CFDs ในขณะที่ MT5 นั้นทำให้เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงตราสารฯ เหล่านี้และหุ้นได้ โดยรวมแล้ว MetaTrader 5 มีจำนวนตราสารฯ ที่มากกว่า

เพื่อให้เห็นความแตกต่าง ลองมาทำการเปรียบเทียบแพลตฟอร์มการซื้อขายของสองเวอร์ชันนี้กัน

กรอบเวลา

MT5 มีจำนวนกรอบเวลาที่มากขึ้น

ตัวอย่างเช่น มีกราฟนาทีถึง 11 แบบ และกราฟรายชั่วโมงถึง 7 แบบ ซึ่งรวมแล้ว MetaTrader 5 มีกรอบเวลาถึง 21 แบบ ในขณะที่ MetaTrader 4 มีเพียง 9 แบบ

ดังนั้นหากคุณชอบที่จะวิเคราะห์และซื้อขายในหลายๆ กรอบเวลา MT5 เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณ

คำสั่งซื้อขายที่รอดำเนินการ

MT5 มีประเภทของคำสั่งซื้อขายรอดำเนินการมากกว่า

MT4 มีคำสั่งรอดำเนินการอยู่ 4 ประเภท: Buy Limit, Buy Stop, Sell Limit และ Sell Stop ใน MT5 มีเพิ่มมาอีก 2 อย่าง คือ Buy Stop-Limit และ Sell Stop-Limit

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

MetaTrader ทั้งสองเวอร์ชันมีเครื่องมือวิเคราะห์มากมาย

MetaTrader 4 มีตัวชี้วัดที่มาพร้อมกับตัวโปรแกรม 30 ตัว, ตัวชี้วัดแบบกำหนดเองฟรีมากกว่า 2,000 ตัว และตัวชี้วัดแบบที่ต้องจ่ายเงินอีก 700 ตัว อีกทั้งยังมีวัตถุที่ใช้ในการวิเคราะห์ 24 ตัวอีกด้วย

MT5 มีตัวชี้วัดทางเทคนิค 38 ตัว และวัตถุกราฟิก 44 ตัว นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดตัวชี้วัดเพิ่มเติมได้อีกด้วย

ปฏิทินเศรษฐกิจ

MT5 มีปฏิทินเศรษฐกิจมาให้พร้อมเลย ซึ่งคุณสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย ไม่เหมือนกับ MT4

โดยในทั้งสองเทอร์มินัลสามารถใช้ Hedging ได้ ซึ่งแพลตฟอร์มทั้งสองเวอร์ชันสามารถใช้งานร่วมกับ Expert Advisors (EA trading robots) และตัวชี้วัดทางเทคนิคได้

โดยรวมแล้ว MetaTrader 4 นั้นเรียบง่ายกว่ามาก ซึ่งเหมาะสำหรับมือใหม่ และเทรดเดอร์ที่ต้องการที่จะมุ่งเน้นไปที่ตลาด Forex บนอินเทอร์เฟซที่ค่อนข้างเรียบง่าย

ในทางกลับกัน MetaTrader 5 เป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุด สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการการวิเคราะห์เชิงลึก และตราสารฯ การซื้อขายที่หลากหลาย

Rollover คืออะไร?

Rollover (โรลโอเวอร์) เป็นกระบวนการที่มีการเปิดตำแหน่งไว้ข้ามคืน เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น อัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินในคู่ FX จะถูกนับเทียบกัน ซึ่งเทรดเดอร์จะได้รับเงินหรือถูกเรียกเก็บเงินจำนวนหนึ่ง ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ย

อัตราค่า swap คืออะไร และค่า swap มีการคำนวณอย่างไร?

ผลรวมที่เทรดเดอร์ได้หรือเสียจากการ rollover เรียกว่า swap การ rollover อาจทำให้คุณ ได้ดอกเบี้ย swap หรือ เสียดอกเบี้ย swap ขึ้นอยู่กับส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยของแต่ละสกุลเงินถูกกำหนดโดยธนาคารกลางของประเทศนั้นๆ โดยปกติแล้วอัตราดอกเบี้ยจะได้รับอิทธิพลจากเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญในประเทศ ซึ่งคุณสามารถติดตามได้ใน ปฏิทินเศรษฐกิจ

อัตราค่า swap คืออัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินหนึ่งในคู่สกุลเงินนั้นลบด้วยอัตราดอกเบี้ยของอีกสกุลหนึ่ง สกุลเงินที่คุณลบออกขึ้นอยู่กับประเภทการซื้อขายที่คุณเปิดคือ long หรือ short

Swap Long และ Swap Short ในการเทรด Forex

การเทรดแบบ Long (หรือ การเทรดแบบ bullish) โดยทั่วไปแล้วก็คือการที่คุณทำการซื้อ โดยคาดหวังว่าสกุลเงินที่คุณซื้อจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น และคุณจะได้กำไรได้จากสิ่งนี้ การเทรดแบบ Short (หรือ การเทรดแบบ bearish) นั้นตรงกันข้ามกัน คือคุณขายคู่สกุลเงินโดยคาดหวังว่าจะได้กำไรจากการที่มันสูญเสียมูลค่า ดังนั้นหากคุณจะเทรดแบบ Long ในคู่สกุลเงิน EURUSD (ซื้อเงินยูโรและขายดอลลาร์สหรัฐ) ในการคำนวณค่า Swap ให้คุณลบอัตราดอกเบี้ยดอลลาร์ออกจากอัตราดอกเบี้ยยูโร หากคุณจะเทรดแบบ Short ให้ลบอัตราดอกเบี้ยยูโรออกจากอัตราดอกเบี้ยดอลลาร์สหรัฐ

โชคดีจริงๆ ที่คุณไม่จำเป็นต้องมาคำนวณค่า Swap ด้วยตนเองทุกครั้งที่คุณต้องได้เทรดแบบมีค่า Swap เพราะมันมี เครื่องมือพิเศษ สำหรับสิ่งนั้นอยู่ คุณสามารถเปิดไปที่หน้า ข้อกำหนดสัญญา เพื่อตรวจสอบตารางค่า Swap Forex ซึ่งตารางของเราประกอบไปด้วยอัตรา Swap Long และ Swap Short